บทความ

ครูโบว์ อิงเบรน Krubow Engbrain Blog post

วิถีเปิดใจเด็กน้อย ให้รักภาษาอังกฤษ

💛 วิธีเปิดใจเด็กน้อย 👨‍👩‍👧‍👦…ให้รักภาษาอังกฤษ 💛
   คำคมยอดฮิตที่ครูโบว์พูดทุกครั้งเวลาไปบรรยายเรื่อง “เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ” ให้คุณพ่อคุณแม่ คุณครู หรือเด็กๆมหาวิทยาลัย
   โบว์มักพูดเสมอว่า “มนุษย์เราสื่อสารกัน ด้วยเสียง ไม่ใช่ Paper”
   วิธีที่เราจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้คนเราล้วนใช้ “เสียง” ซึ่งเป็นสิ่งแสดงอารมณ์ความคิด ความรู้สึกและเจตนารมย์ออกมา
   อย่างเช่นบทความที่คุณพ่อคุณแม่กำลังอ่านอยู่ตรงนี้ เชื่อว่าหลายๆท่าน กำลังอ่าน และจินตนาการในใจถึงน้ำเสียงของโบว์ เพื่อจะได้เข้าใจเจตนารมย์ที่โบว์อยากสื่อสารออกมาด้วย ใช่ไหมคะ
        วินาทีนี้จึงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เสียงคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เราเข้าอกเข้าใจกันและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
   การเรียนภาษาอังกฤษของทุกคนก็เช่นกันค่ะ หากเราต้องการเรียนให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าผู้เรียนจะอายุเท่าไร ทุกคน ควรได้รู้เรื่องเสียงเป็นสิ่งสำคัญ อันดับแรกเสมอ
   เปรียบเสมือน เราฝึกภาษาไทย (ภาษาแม่ของเรา) เราพูดไทยได้ ก่อนที่เราจะอ่านได้เเละเขียนได้ วิธีนั้นทำให้เรา ไม่มีกำเเพงทางภาษาเพราะถูกฝึกพูดให้ชินเสียก่อน ซึ่งทุกคนทราบดีว่าหากแค่เราพูดได้ ความรู้สึกมั่นใจก็จะตามมา ความอยากรู้อยากเห็น(Curiosity) เพื่อศึกษาทักษะต่อไปเพิ่มเติม ทั้งเรื่องการอ่านและการเขียนก็จะตามมา
Phonics Courses Kids EngBrain

แต่ในทางกลับกันนั้น

   โบว์เองเชื่อมั่นว่าส่วนใหญ่เด็กไทยหรือผู้ใหญ่อย่างเราที่เรียนภาษาอังกฤษกันมาแทบไม่เคยมีความรู้สึกมั่นใจกับการพูดของตัวเองในแบบเดียวกันกับที่เราพูดภาษาไทยได้ในวัยเด็กเลยใช่ไหมคะ
  ซึ่งพอเราพูดไม่ได้แรงจูงใจที่จศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมต่อก็ลดน้อยถอยลงไปทุกทีหากเราได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วยวิธีการแบบเดียวกันกับภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาแม่เรานี้ผลลัพธ์ที่เราอยากได้ก็ย่อม ไม่แตกต่างกัน ใช่ไหมคะ
คราวนี้หลายท่านคงอยากให้โบว์เข้าเรื่องถึง วิธีการเปิดใจเด็กน้อยให้รักภาษาอังกฤษและมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
   ความคิดเรื่อง “เก่งเสียง” ทำให้ “พูดเก่ง ฟังเก่ง และอ่านภาษาอังกฤษออก” มันมีที่มาจากการที่ เด็ก ๆ เมื่อรู้วิธีการเปล่งเสียงที่ถูกต้อง (phonemic awareness) เค้าสามารถเลียนแบบ (imitation) เสียงพูดออกมาเพื่อฝึกพูดตามได้
แต่เนื่องจากครูโบว์เป็นครูสอนโฟนิกส์ โบว์จึงขอมุ่งเน้นเรื่องการสอนอ่านศัพท์เป็นสิ่งสำคัญนะคะ ในที่นี่ยังไม่ขอลงลึกเรื่องการฝึกพูดกับเด็ก ๆ โบว์เชื่อว่ายุคนี้หลาย ๆ บ้านตื่นตัวเรื่องการสร้างครอบครัวเด็สองภาษามากขึ้น แต่จะพูดถึงสิ่งที่เป็นปัญหาของเด็กไทยมายาวนานคือ การที่เด็กไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
  ด้วยกระบวนการเข้าใจเรื่องเสียง เนื่องจากหลาย ๆ ที่ คุณครูยังใช้วิธีการสอนแบบเดิมคือ เรียนภาษาหรือคำศัพท์ใหม่ ๆ ด้วยกระบวนการสอนอ่านเป็นคำๆ (whole word method) แบบสมัยก่อนที่รุ่นปู่ย่าตายายได้เรียนมาที่สอนให้เด็กจำคำด้วยการดูตัวอักษรหรือ ดูรูปด้วยสายตา (sight reading) แล้วจำไปทั้งคำว่ามันอ่านแบบนี้ ผู้ที่เก่งภาษาอังกฤษในระบบเก่านี้เก่งได้เพราะความจำดี และครูหรือผู้บริหารในโรงเรียนต่างไม่ได้รู้เลยว่า เด็กของพวกเค้าไม่เคยได้รับการสอนอ่านที่ถูกวิธี  ถ้าให้ครูโบว์พูดเองคงจะไม่หนักแน่นเท่ากับอ้างอิงข้อมูลจากองค์กรการอ่านแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NRP: National Reading Panel,2000) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลมอบหมายโดยรัฐสภาสหรัฐให้วิเคราะห์ผลงานวิจัยจากทั่วประเทศเพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุดในการสอนให้เยาวชนอ่านออก
 
   เนื่องจากปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่ที่ประเทศไทยอย่างเดียวประเทศ เจ้าของภาษาต่างก็มีปัญหาเด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ หรือการไม่รู้หนังสือเช่นกัน
 
   ความคิดเรื่อง “เก่งเสียง” ทำให้ “อ่านศัพท์ออก”จึงได้รับการยอมรับในองค์กรนี้ และทางองค์กรได้ระบุให้การสอนเรื่องการตระหนักเรื่องหน่วยเสียงย่อย(phonemic awareness)และการเชื่อมโยงตัวอักษรกับหน่วยเสียง (phonics) เป็นขั้นตอนที่มาก่อนการสอนอ่านคำศัพท์ใดๆ
 
หน่วยเสียงย่อยหรือ Phonemesที่ครูโบว์พูดในคอร์ส Phonics เป็นประจำ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญอย่างยิ่งในการบ่งชี้ความสำเร็จในการสอนเด็กที่มีปัญหาเรื่องอ่านไม่ออก  เขียนไม่ได้   ซึ่งมันเกิดขึ้นจากการที่พวกเค้าไม่สามารถ“ถอดรหัสหน่วยเสียงย่อย”เพื่อรวมหน่วยเสียงอ่านเป็นหนึ่งคำศัพท์ได้
 
   การฝึกเด็กๆ ให้เก่งเรื่องเสียงด้วยการเรียน “โฟนิกส์”ก่อนคือ  กระบวนการสอนให้นักเรียนเชื่อมโยงเสียงกับตัวอักษรได้ ซึ่งเมื่อนักเรียนเชื่อมโยงได้เเล้วพวกเขาก็สามารถอ่านคำออกและสะกดคำได้แม้เป็นคำที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
 
   การสอนโฟนิกส์จึงถูกกำหนดไว้ในหลักสูตรแห่งชาติสหรัฐอเมริกา 🇺🇸  หลักสูตรแกนกลางของประเทศอังกฤษ 🇬🇧 ของฟินแลนด์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย สิงคโปร์ 🇫🇮 🇭🇰 🇸🇬 🇦🇺 และอีกหลายประเทศทั่วโลก
 
การให้ครูสอนภาษาต้องสอนโฟนิกส์เพื่อการอ่านออกของนักเรียนก่อนเป็นสิ่งสำคัญอันดับเเรก
 
อ่านมาจนถึงตอนนี้เราคงปฎิเสธกันไม่ได้ว่า Phonics ในบ้านเรา ถึงเวลาจริงจังกันหรือยังที่จะต้องถูกผลักดันและส่งเสริม ให้เป็นเรื่องสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง  ของการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน
 
หากวันนี้ลูกหลานของท่าน ยังไม่ได้เริ่มเรียนโฟนิกส์ควบคู่กับการฝึกพูดก่อนแต่ถูกข้ามขั้นตอนการเรียนการสอนไปเริ่มที่การเขียนเพื่อการอ่านได้ หรือเรียนไวยากรณ์เลย ก็เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนักว่าปัญหาที่เด็กๆจะไม่ถูกเปิดใจ ❤️ ให้รักและชอบภาษาอังกฤษก่อนจะได้รับการปลดล็อคสักที
BG ครูโบว์ อิงเบรน Krubow Engbrain 4

กัญญนันทน์ สิรินิธิชัยโชติ

CHIEF EXECUTIVE OFFICER (CEO ) & FOUNDERATENGBRAIN

บทความน่าสนใจอื่นๆ